วันอาทิตย์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2553

ความรู้เกี่ยวกับทุเรียน


เรื่องของ "ทุเรียน" ที่คุณอาจไม่เคยรู้



มีเคล็ดลับที่ไม่ลับของทุเรียนมาฝากกัน เวลาจะกินทุเรียนทีไรต้องคิดหน้าคิดหลังสิบแปดตลบ กลัวอ้วนบ้าง กลัวร้อนในบ้าง กลัวคอเลสเตอรอลกระฉูดบ้าง
ถ้ากินตามเทคนิคของปู่ย่าตายายที่ตกทอดกันมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยารับรองผอมแน่ นั่นคือให้กินทุเรียนแบบถือว่าเป็นยาถ่ายพยาธิไม่ใช่กินเอาอร่อยอย่างที่เรากินๆ กัน ตื่นนอนให้เช้าๆ หน่อยสักประมาณตี 5 (เป็นเวลาที่ธาตุของเราเริ่มทำงาน) หลังจากแปรงฟันล้างหน้าแล้วก็ทานทุเรียนได้เลย จะเลือกพันธุ์ไหนก็ได้ตามรสนิยมให้ทานได้ประมาณครึ่งลูก คนอ้วนจะทานได้มากกว่านี้นิดหน่อย หลังจากทานแล้วดื่มน้ำอุ่นๆ ตามลงไปด้วยหลังจากทานทุเรียนแล้วควรงดอาหารเช้าของวันนั้นทานติดต่อกัน 2 วัน เส้นใยและความร้อนจากสารกำมะถันในทุเรียนจะไปชะล้างพยาธิและสิ่งสกปรกต่างๆ ในลำไส้ออกมาจนหมด ทำให้คุณผอมลงร่างกายแข็งแรงสดชื่นด้วย ทุเรียนมีดีรอบด้านถึงกินแล้วจะร้อนในไป แต่ความดีอย่างอื่นของทุเรียนก็ยังมีแถมมีตั่งแต่ต้นจรดราก

เนื้อ : เนื้อทุเรียนมีกำมะถันเป็นส่วนประกอบหลักทำให้ร้อน แต่ความร้อนนี้จะช่วยแก้โรคผิวหนังได้ ทำให้ฝีหนองแห้งเร็วและมีฤทธิ์ขับพยาธิได้ด้วย
เปลือก : ถ้าเอาเปลือกแหลมๆ ไปสับแช่ในน้ำปูนใส แล้วเอามาล้างแผลพุพอง แผลน้ำเหลืองเสีย แผลจะหายเร็ว หรือถ้าหากมีเด็กในบ้านเป็นคางทูม คนสมัยก่อนเขาก็จะเอาเปลือกทุเรียนไปเผาแล้วบดเป็นผง เอมาผสมกับน้ำมันงาหรือน้ำมันมะพร้าว แล้วเอามาพอกที่คาง คางทูมก็จะยุบ

ใบทุเรียน : เอาใบทุเรียนไปต้มกับน้ำแล้วเอาน้ำนั้นมาอาบ ความร้อนจะช่วย ให้หายไข้และโรคดีซ่านได้
ราก : ตัดเป็นข้อๆ ใส่หม้อต้มให้เดือด นำมาดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ดี

แต่ที่สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามแล้วละก็ คุณอาจจะไม่เคยคิดเลยว่า ทุเรียนจะสามารถทำให้คุณสวยได้

วิธีการไม่ยากเลยเพียงแค่ : นำเนื้อทุเรียนสุกพอห่ามๆ ไม่ต้องสุกมาก มาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ สักกำมือหนึ่ง ปั่นรวมกับดินสอพอง 1/4 ช้อนโต๊ะ จนเป็นเนื้อข้นๆ ทาไปเลยทั่วผิว เว้นรอบดวงตาและปาก หรือบริเวณที่เป็นสิว ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที จึงล้างออก ธาตุกำมะถันในทุเรียนจะทำให้สิวแห้งเร็วขึ้น






วันอังคารที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2553

การถนอมผิวให้สวย


6 วิธีง่าย ๆ ในการถนอมผิวให้สวย


ใคร ๆ ก็อยากเป็นสาวผิวใส สุขภาพดี ไร้ริ้วรอยและความหมองคล้ำ แต่ด้วยวัยที่เพิ่มขึ้นรวมไปถึงมลภาวะรายรอบอาจทำให้ผิวของคุณขาดความกระชับมีรอยเหี่ยวย่นอย่างไม่รู้ตัว ดังนั้นการใส่ใจผิวพรรณจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างยิ่ ง เราควรเริ่มต้นดูแลผิวพรรณให้คงความสวยงาม กระชับ ไร้ริ้วรอย ด้วย 6 วิธีง่าย ๆ ในการถนอมผิวด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

วิธีที่ 1 คือการใช้ครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะฤดูกาลไหนครีมกันแดดก็เป็นสิ่งสำคัญในการช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดซึ่งมีส่วนทำลายผิวให้เกิดความเหี่ยวย่น การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวันจึงเป็นเสมือนการสร้างเกราะคุ้มกันให้กับผิวหน้า ถ้าหากว่าคุณไม่ค่อยได้เผชิญกับแสงแดดแรง ๆ ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 ก็ถือว่าเพียงพอแล้วละค่ะ ในช่วงกลางวันที่แดดจ้า การหลบแดดถือว่าเป็นวิธีป้องกันผิวที่ดีที่สุด หรือถ้าต้องไปเผชิญแสงแดดในตอนกลางวันกันจริง ๆ คุณควรสวมหมวกปีกกว้าง สวมแว่นกันแดด และใส่เสื้อผ้าโทนสีเข้ม เนื้อหนา ซึ่งจะช่วยป้องกันการทะลุผ่านของรังสี UV ทั้ง UVA ที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดผิวคล้ำและริ้วรอย UVB ที่ทำให้ผิว ไหม้เกรียมได้ในระดับหนึ่ง


วิธีที่ 2 อย่ารบกวนผิวมากเกินไป เพราะไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพผิวเลย การล้างหน้าบ่อย ๆ หรือขัดถูผิวหน้า อย่างรุนแรงถือว่าเป็นการทำลายผิวอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัวและอาจเป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ผิวเกิดริ้วรอยและหยาบกร้านได้ โดยเฉพาะกับคนที่มีผิวแห้งการล้างหน้าอย่างถูกวิธีนั้นต้องทำอย่างนุ่มนวล คุณควรเช็ดผิวอย่างเบามือเพื่อป้องกันริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้คุณควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิวด้วยเช่นกัน


วิธีที่ 3 ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acid ซึ่งมีคุณสมบัติในการช่วยผลิตเซลล์ผิวให้ขาวขึ้นและยังช่วยรักษาริ้วรอยจากแสงแดดได้อีกด้วย ในปัจจุบันเครื่องสำอางส่วนใหญ่ก็มีส่วนผสมของ AHA ในปริมาณ 2-15% ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อผิว แต่อย่างไรก็ตามคุณก็ควรหลีกเลี่ยงการตากแดดแรง ๆ เพราะการใช้ AHA จะทำให้ผิวหน้าไวต่อแดดมากขึ้น ดังนั้นเพื่อป้องกันการแพ้ควรใช้ครีมกันแดดร่วมด้วยเสมอ


วิธีที่ 4 การลดริ้วรอยบาง ๆ ใต้ตาด้วยเรตินอล เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้นริ้วรอยใต้ตาอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงความร่วงโรยของผิวได้ โดยเฉพาะผิวใต้ตาซึ่งจะเป็นบริเวณที่ค่อนข้างบอบบางจึงทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่าย หากทิ้งไว้ก็อาจกลายเป็นรอยตีนกาได้ ดังนั้นคุณควรที่จะต้องหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของเรตินอลซึ่งมีคุณสมบัติในการลดเลือนริ้วรอยจาง ๆ ได้ดี นอกจากนี้เรตินอลยังช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนซึ่งทำให้ผิวหน้ามีความเต่งตึงขึ้นได้


วิธีที่ 5 การทานอาหารที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านริ้วรอย จากการวิจัยพบว่าอาหารที่อุดมไปด้วยผัก ผลไม้ และอาหารที่มีไขมันต่ำ จะช่วยให้ผิวพรรณของเราแข็งแรงพอที่จะต่อต้านสิ่งที่มาทำลายผิวให้อ่อนแอจนทำให้เกิดริ้วรอยโดยเฉพาะแสงแดด อาหารที่ควรรับประทานเพื่อต่อต้านริ้วรอยคืออาหารที่มีไขมันต่ำ ลดการรับประทานเนื้อแดงและของหวาน นอกจากนี้ก็ควรเพิ่มการรับประทาน ผักใบเขียว ผลไม้ เมล็ดถั่วต่าง ๆ น้ำมันมะกอกซึ่งเป็นไขมัน ไม่อิ่มตัว รวมทั้งเมล็ดธัญพืชต่าง ๆ ซึ่งอาหารเหล่านี้มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ วิตามินเอ ซี และอี จะช่วยให้ผิวของคุณแข็งแรงและเป็นการปกป้องผิวไม่ให้ถูกทำลายจากสิ่งแวดล้อมและมลภาวะภายนอก


วิธีที่ 6 การใช้ชีวิตอย่างสมดุล ผู้หญิงทำงานทั้งหลายมีสิทธิ์ผิวหย่อนยานไม่สดใสได้เร็วขึ้นเนื่องจากการทำงานหนักและไม่มีเวลาพักผ่อน นอกจากร่างกายจะอ่อนล้าแล้วผิวพรรณก็ดูหมองคล้ำลงทำให้ดูโทรม คุณควรบริหารเวลาทั้งเวลางานและเวลาส่วนตัวให้มีความสมดุลและควรหาเวลาในการออกกำลังกายบ้าง รวมถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่ซึ่งจะเป็นการช่วยให้เซลล์ผิวแข็งแรง หากคุณไม่หาเวลาคลายเครียดเสียบ้าง เมื่อปล่อยไปนาน ๆ ผิวพรรณของคุณก็จะร่วงโรยหมดความสดใสและความเปล่งปลั่งของผิวสาวก็มิอาจกลับคืนมาได้อีก





วันอาทิตย์ที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2553

วิธีทำขนุนทอดกรอบ


การทำขนุนทอดกรอบ

อุปกรณ์ และส่วนประกอบที่สำคัญ อุปกรณ์
1. มีดสำหรับปอกผลไม้
2. ตระแกรงลวดตักขนุน
3. กระทะสำหรับทอด
4. ภาชนะใส่ขนุน
5. กระดาษ ซับน้ำมัน
6. เตาสำหรับทอด
7. ตะหลิวสำหรับทอด
8. ภาชนะบรรจุ

ส่วนประกอบที่สำคัญ
1. ขนุนแก่จัด (แต่ไม่สุก)
2. น้ำมัน สำหรับทอด
3. เกลือป่น (สำหรับรสเค็ม)
4. น้ำตาล ทราย(สำหรับรสหวาน)

วิธีการทำขนุนทอดกรอบ (รสเค็ม)
1. ปอก เปลือกขนุนออกเลือกเอาแต่ยวงโดยไม่ต้องแกะเมล็ดออก
2. ใช้มีดปอกผลไม้ฝานเนื้อขนุนบาง ๆ จนรอบเมล็ดขนุน
3. นำขนุนที่ฝานเสร็จแล้ว ลงทอดในกระทะที่น้ำมันร้อน ๆ
4. เมื่อ ขนุนเหลืองแล้วตักขึ้นใส่ภาชนะที่รองด้วยกระดาษซับน้ำมัน
5. นำเกลือป่นโรยบนขนุนที่ทอดเสร็จแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน
6. นำขนุนที่ รุงรสแล้วบรรจุภาชนะแล้วผนึกไม่ให้อากาศเข้าได้

วิธีการทำขนุนทอดกรอบ (รสหวาน)
1. ปอก เปลือกขนุนออกเลือกเอาแต่ยวงโดยไม่ต้องแกะเมล็ดออก
2. ใช้มีดปอกผลไม้ฝานเนื้อขนุนบาง ๆ จนรอบเมล็ดขนุน
3. นำขนุนที่ฝานเสร็จแล้ว ลงทอดในกระทะที่น้ำมันร้อน ๆ
4. เมื่อ ขนุนเหลืองแล้วตักขึ้นใส่ภาชนะที่รองด้วยกระดาษซับน้ำมัน
5. เคี่ยวน้ำเชื่อมทิ้งไว้ให้เย็น
6. นำขนุนที่ทอดเสร็จแล้วใส่ลงในน้ำ เชื่อมแล้วตักขึ้นแล้วนำไปทอดในน้ำมันที่ร้อนจัดอีกครั้งหนึ่ง
7. ตักขึ้นใส่ภาชนะที่รองด้วยกระดาษซับมัน
8. นำขนุนที่ปรุงรสแล้วบรรจุภาชนะและผนึกไม่ให้อากาศเข้าได้

วิธีทำเค้กกล้วยหอม


เค้กกล้วยหอม
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 1 ถ้วย
เกลือ 1/4 ช้อนชาเบคกิ้ง
โซดา 1/2 ช้อนชา
ผงฟู 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
ไข่ 1 ฟอง
เนยเค็ม 1/4 ถ้วย
น้ำเปล่า 4 ช้อนโต๊ะ
วนิลา 1/2 ช้อนชา
กล้วยหอมสุกงอมบด 3/4 ถ้วย


วิธีทำ
วอร์มเตาอบ 180 องศาC
1. ร่อนแป้ง + ผงฟู + เบคกิ้งโซดา + เกลือ เสร็จแล้วใส่อ่างผสมไว้
2. ตอกไข่ใส่อ่างผสมอีกใบนึง แล้วตีด้วยความเร็วกลางจากนั้นค่อยๆ ใส่น้ำตาลทรายลงไป ตีจนกระทั่งน้ำตาลทรายละลายและขึ้นฟู ประมาณ 5 นาที
3. นำเนยไปอุ่นในไมโครเวฟ หรือใส่หม้อตั้งไฟอุ่นก็ได้ ให้มันเหลว แล้วคนให้เข้ากัน
4. นำเนยที่อุ่นไว้เทลงโถ ตีต่อให้ส่วนผสมเข้ากันอีกประมาณ 1 นาที ปิดเครื่องตี จากนั้นก็ค่อยๆ ใส่กล้วยที่บดไว้แล้วลงไปผสมให้เข้ากัน
5. ค่อยๆ ตักแป้งที่ร่อนไว้ใส่ลงไปสลับกับน้ำเปล่า (การใส่แป้งสลับกับน้ำ ควรใส่แป้งก่อนแล้วตามด้วยน้ำจนกระทั่งจบลงด้วยแป้งในช้อนสุดท้าย เพื่อที่เนื้อแป้งของเค้กจะได้ไม่เหลว) ใช้พายคนแบบตะล่อม ๆ เอาแค่ส่วนของแป้งกับส่วนของกล้วยเข้ากัน
6. เทส่วนผสมใส่ลงถาดเค้กปอนด์ รองก้นด้วยกระดาษไข ประมาณ 3/4 ของพิมพ์ นำไปอบ 30-45 นาที

แนะนำตัว


ดิฉัน นางสาวฉัตรสุดา ชัยสิทธิ์ ชื่อเล่น ปุย, ปุ๊กปุย, ปุยฝ้าย
เกิด : วันพฤหัสบดีที่ 7 เดือนเมษายน พ.ศ. 2531
ส่วนสูง : 160 ซม. น้ำหนัก : 42 กก.
ที่อยู่ : บ้านเลขที่ 91 หมู่ 1 บ้านศรีธาตุ ตำบลศรีธาตุ อำเภอศรีธาตุ จังหวัดอุดรธานี 41230
ปัจจุบันอาศัยอยู่ : หอพักสตรีพิมพลอย ในมอใหม่ฝั่งท่าขอนยาง

ปัจจุบันศึกษา : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นิสิตชั้นปีที่ 3 รหัสนิสิต 50010919104
คณะการบัญชีและการจัดการ สาขาการบัญชี (AC)

คติ : ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั้น